ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐมัลดีฟส์

maldives-18

ท่านเคยสงสัยกันบ้านหรือไม่ว่าทำไมประเทศไทยจึงรู้จัก “เกาะมัลดีฟส์? มันมีที่มา มีจุดเริ่มต้นยังไง  เพราะเท่าที่ทัวร์มัลดีฟส์พอจะประติดประต่อได้ ก็เมื่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวช่วงหนึ่งเกิดกระแสแห่เที่ยวมายังเกาะแห่งนี้  แต่ใครหลายๆคนอาจคิดไม่ถึงว่าประเทศไทยนั้นรู้จักกับเกาะมัลดีฟส์หรือสาธารณรัฐมัลดีฟส์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว  ไม่เชื่อมาดูหลักฐานกันเลย

ความสัมพันธ์ทางการทูต

ประเทศไทยกับสาธารณรัฐมัลดีฟส์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับเอกอัครราชทูต เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2522 และมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาโดยตลอด ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน ปัจจุบันเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำ มัลดีฟส์ และข้าหลวงใหญ่มัลดีฟส์ประจำศรีลังกา ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย

การแลกเปลี่ยนการเยือน

ฝ่ายไทย

2123 พ.ย. 2528                ร.ต. ประพาส ลิมปะพันธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนมัลดีฟส์อย่างเป็นทางการ

2124 มี.ค. 2531                นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยือนมัลดีฟส์ เพื่อร่วมการประชุมเจรจาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือทางวิชาการและงานพัฒนาด้านสาธารณสุข

68 เม.ย. 2543                   นายปองพล อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เยือนมัลดีฟส์อย่างเป็นทางการ

ฝ่ายมัลดีฟส์

56 และ 910 ธ.ค. 2528  ประธานาธิบดีกายูมแวะเยือนไทยตามคำเชิญฝ่ายไทย

59 มี.ค. 2533                    ประธานาธิบดีกายูมเยือนไทยเพื่อร่วมการประชุมระดับโลกเรื่องการศึกษาเพื่อปวงชน (World Council on Education for All)

ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย มัลดีฟส์

การค้า การค้าระหว่างไทยกับมัลดีฟส์มีไม่มากนัก โดยไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบดุลการค้าเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม สินค้าจากประเทศไทยเข้าสู่มัลดีฟส์มีปริมาณมากกว่าที่ปรากฏตามสถิติ เนื่องจากสินค้าไทยผ่านการ re-export ทางสิงคโปร์เป็นจำนวนมาก

สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์พลาสติก ข้าว และผลิตภัณฑ์เซรามิก สินค้านำเข้าที่สำคัญจากมัลดีฟส์มีเพียงสิ่งเดียว ได้แก่ ปลาทูน่าสด แช่แข็งและแช่เย็น

การประมง ประเทศมัลดีฟส์เป็นแหล่งปลาทูน่าที่สำคัญในมหาสมุทรอินเดีย ประเทศไทยยังไม่มีการติดต่อเพื่อทำประมงร่วมกับมัลดีฟส์ ทั้งระหว่างภาครัฐบาลและเอกชน ฝ่ายไทยเคยส่งเรือวิจัยประมงของกรมประมงเดินทางไปทำการศึกษาและวิจัยด้านปลาทูน่าในมัลดีฟส์ในบางโอกาส นอกจากนี้ รัฐบาลมัลดีสฟ์ได้กำหนดเงื่อนไขที่จะเข้าไปจับปลาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของมัลดีฟส์ เช่น ต้องเสียค่าใบอนุญาต (license fee) ต้องจับปลาห่างฝั่งอย่างน้อย 75 ไมล์ และให้ผู้ได้รับอนุญาตจับปลาได้ไม่เกินปีละ 1.5 หมื่นตัน รวมทั้งทางการมัลดีฟส์ยังกำหนดให้ใช้วิธีการจับปลาแบบดั้งเดิมอีกด้วย

ความตกลงทวิภาคีไทย มัลดีฟส์ ความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศไทย มัลดีฟส์ ลงนามเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม2532 ที่กรุงเทพฯ กำหนดให้สายการบินของแต่ละฝ่ายดำเนินบริการเดินอากาศในแต่ละทิศทาง โดยไม่จำกัดแบบของอากาศยาน ปัจจุบันมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์สของประเทศไทยเปิดบริการเดินอากาศระหว่าง กรุงเทพฯ มัลดีฟส์ ด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ไป-กลับ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ความร่วมมือทางวิชาการ ในการประชุมความร่วมมือทางวิชาการไทย มัลดีฟส์ (Thai – Maldives Joint Commission on Economic and Technical Cooperation) ณ กรุงมาลี เมื่อปี 2535 และ 2536 รัฐบาลไทย (โดยกรมวิเทศสหการ) เริ่มให้ความช่วยเหลือแก่มัลดีฟส์อย่างจริงจัง ทั้งทางด้านสาธารณสุข ประมง เกษตร การท่องเที่ยว การบิน การให้ทุนศึกษาในระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยแก่นักเรียน/นักศึกษามัลดีฟส์ รวมทั้งจัดส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวชและการแพทย์ไปฝึกอบรมเจ้าหน้าที่มัลดีฟส์ตามโครงการ Thai Aid Programme โครงการ Third Country Training Programme และข้อตกลงในกรอบของความร่วมมือทางวิชาการ ฝ่ายไทย โดยกรมวิเทศสหการได้ให้ความช่วยเหลือ/ความร่วมมือทางวิชาการอย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยจัดทำกรอบของแผนการให้ความช่วยเหลือ/ร่วมมือทางวิชาการ 3 ปี ระหว่างปี 2539-2541 และได้ขยายแผนดังกล่าวออกไปอีก 3 ปี ระหว่างปี 2542-2544