เทคนิคการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด

การเลือกชนิดของ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ให้เหมาะกับการใช้งาน ควรคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้
ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่ใช้ทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ CCIR ( PAL:ใช้ในประเทศไทย ) และ EIA (NTSC) กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ระบบ CCIR เป็นระบบมาตรฐานยุโรป 625 เส้น 220 โวลต์ 50 เฮิรตช์ ส่วน EIA เป็นระบบมาตรฐานอเมริกัน 525 เส้น 110 โวลต์ 60 เฮิรตช์ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในประเทศไทยจะต้องเป็นระบบ CCIR

ขนาดของแผ่นรับภาพของ CCD Sensor format (ที่เรียกติดปากกันว่า ขนาดชิป ) ถ้ายิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งดี เพราะสามารถมองภาพได้มุมที่กว้าง เช่น ขนาด 2/3″, 1/2″, 1/3″, และ 1/4″  เป็นต้น ขนาดของแผ่นรับภาพแต่ละรุ่นนั้นจะมีผลต่อความละเอียดของภาพ ( Numbers of Pixels ) และการเลือกใช้เลนส์ให้ได้มุมมองของภาพตามต้องการ

•    ความสว่าง ( Illumination )
คุณสมบัติของอุปกรณ์รับภาพของ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)นั้น ไม่ใช่มีผลเฉพาะต่อความไวที่มีต่อแสงสว่างเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อสีของวัตถุอีกด้วย คุณภาพ ของภาพที่ดีจะขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงที่ฉากรับภาพ ในกรณีของ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่เป็น กล้องสี ต้องคำนึงถึงอุณหภูมิสี ( Color Temperature) ที่ได้จากแสงสว่างร่วมกันกับแหล่งกำเนิดแสงทั่ว ๆ ไป เพราะประกอบด้วยแสงสีชนิดต่าง ๆ รวมกัน และแสงบริเวณรอบ ๆ กล้องที่จับภาพจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้แสงไม่คงที่ตลอดเวลา
การกำหนดค่าความสว่างของ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)  มีหน่วยเป็นลักซ์ – Lux  นั้นต้องคำนึงถึงความสว่างของพื้นที่กล้องจับภาพ, การสะท้อนของแสงที่ฉากรับภาพ, ระยะห่างของวัตถุฉากรับภาพถึงตัวกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ซึ่งทำให้อัตราการสูญเสียของแสงที่หายไปรวมถึงการเลือกใช้ชนิดของเลนส์เป็นองค์ประกอบการพิจารณาด้วย

โดยทั่วไป กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) แบบ CCD สามารถแบ่งตามคุณสมบัติของความสว่างได้ 3 ระดับ คือ

1. กล้องที่ใช้ในกิจการทั่วไป ต้องการความสว่างตั้งแต่ 5-2,000 Lux
2. กล้องที่ใช้ในกิจการความปลอดภัยสูง ต้องการความสว่างตั้งแต่ 0.1-5 Lux
3. กล้องที่ใช้ในกิจการพิเศษโดยเฉพาะอย่าง ต้องการความสว่างตั้งแต่ 0.0001-0.1 Lux

•    ระบบซิงค์ ( Synchronization )
โดยทั่วไป กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) จะมีวงจรกำเนิดซิงค์ในตัวของมันเองอยู่แล้ว ซิงค์ของกล้องแต่ละตัวจะไม่ตรงกัน หากเรานำกล้องหลาย ๆ ตัว มาใช้ร่วมกันโดยผ่าน เครื่องลำดับภาพ (Sequence Switcher) และแสดงภาพบนจอมอนิเตอร์ จะสังเกตเห็นได้ว่าในขณะที่เครื่องลำดับภาพสลับภาพจาก กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ตัวหนึ่งไปยังอีก กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)ตัวหนึ่งนั้น ภาพจะกระตุกในแนวตั้งบนจอมอนิเตอร์ ซึ่งจะมีผลต่อการบันทึกภาพวิดีโอ เมื่อนำภาพวิดีโอนั้นมาเล่นอสลับทำให้ภาพล้มเป็นช่วง ๆ ตามจังหวะ การสลับภาพของเครื่องลำดับภาพ
ความคมชัดของภาพ ( Resolution )
กล้องที่มีความคมชัดสูงจะให้ภาพที่คมชัด ซึ่งคุณสมบัตินี้นับว่าเป็นพื้นฐานของการเลือกชนิดของกล้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงงานให้เหมาะสมกับการใช้งานในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
เทคนิคการเลือกซื้อระบบกล้องวงจรปิด
1) คุณภาพของสินค้า ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจะแบ่งคุณภาพสินค้าตามยี่ห้อและประเทศที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์
1.1) คุณภาพดี
จะเป็นระบบกล้องวงจรปิดที่เจ้าของผลิตภัณฑ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา , ยุโรป , และญี่ปุ่นอาทิ
– สินค้าจาประเทศสหรัฐ อเมริกา,ยุโรป ยี่ห้อ BOSCH , PELCO , VICON จะนิยมใช้ในท่าอากาศยาน , อาคารสูง , สถานที่ที่ต้องการระบบที่มีความเสถียรภาพสูง เช่น โรงกรองน้ำ , โรงไฟฟ้า ฯลฯ ราคาค่อนข้างสูง
– สินค้าจากประเทศญี่ปุ่น ยี่ห้อ SANYO , JVC , PANASONIC , SONY จะนิยมใช้ในอาคาร , โรงงาน , สำนักงาน ที่ต้องการระบบกล้องวงจรปิดที่คุณภาพดี แต่ราคาไม่สูงมาก สินค้าจากประเทศสหรัฐ อเมริกา,ยุโรป ,ญี่ปุ่น อายุการใช้งานประมาณ 5-8 ปี

1.2) คุณภาพปานกลาง
จะเป็นระบบกล้องวงจรปิดจากประเทศไต้หวันและเกาหลี ซึ่งราคาจะถูก , คุณภาพ , สีและความคมชัด จะดีปานกลางพอใช้งานได้ แต่ถ้านำมาสาธิตเปรียบเทียบสินค้าจากประเทศสหรัฐ อเมริกา,ยุโรป ,ญี่ปุ่น จะเห็นความแตกต่างมากในคุณภาพของภาพ เหมาะสำหรับผู้ซื้อที่มีงบประมาณจำกัด อายุการใช้งาน 3-5 ปี

1.3) คุณภาพต่ำ
จะ เป็นระบบกล้องวงจรปิดจากประเทศจีน ซึ่งระบบควบคุมคุณภาพไม่ดี เน้นการขายปริมาณอย่างเดียว สินค้าที่ผลิตในแต่ละงวดจะมีคุณภาพไม่เหมือนกัน(Quality Control ไม่ได้มาตรฐาน) อายุการใช้งานสั้นมากประมาณ 6 เดือน-3 ปีเท่านั้น(แล้วแต่ยี่ห้อ และ งวดการผลิต) จะเห็นโฆษณาของสินค้าประเทศจีน ในหนังสือพิมพ์ , WEPSITE ทั่วไป ในราคาที่ถูกมาก ถ้าเปรียบเทียบเงินที่ใช้ในการซื้อกับคุณภาพและอายุการใช้งานแล้ว ควรเลือกสินค้าไต้หวัน / เกาหลีจะดีกว่า
หมายเหตุ แผงรับภาพ CCD และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่น ซึ่งจะคัดเลือกอุปกรณ์เกรด A ได้ขายให้ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา เกรด B ขายให้ไต้หวันและเกาหลี เกรด C ขายให้ประเทศจีน ทำให้คุณภาพสินค้าเป็นไปตามคุณภาพของอุปกรณ์ที่ใช้

2) กล้องวงจรปิด
การพิจารณาคุณภาพของกล้องวงจรปิด จะพิจารณาความละเอียดของภาพ (TV LINE) และความสามารถในการรับแสง ILLUMINATION (LUX) ความละเอียดของภาพสูงจะทำให้ภาพคมชัด (ปัจจุบันมีตั้งแต่ 330, 350 , 380 , 420 , 480 , 520 , 540 TV LINE) และความสามารถในการรับแสงที่ต่ำจะดีเพราะสามารถเห็นในที่มืด(สว่างน้อย) เช่น 0.5 , 1 , 2 LUX (ยิ่งตัวเลขต่ำยิ่งดี) อย่างไรก็ตามต้องพิจารณายี่ห้อเป็นหลัก เพราะสินค้าจากประเทศจีน , ไต้หวัน หรือเกาหลีบางยี่ห้อคุณลักษณะจริงของสินค้า ไม่ตรงกับกับ Catalog

3) อุปกรณ์บันทึกภาพ (DVR) อุปกรณ์บันทึกภาพ จะแบ่งได้เป็น 3 แบบคือ
3.1) แบบ PC BASE
จะใช้ VIDEO CAPTURE CARD ต่อกับ PC เมื่อบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกใน HARDDISK จะแบ่งเป็น
– MICROSOFT WINDOW จะมีฟังก์ชั่นหลากหลาย แต่มีปัญหาด้านเสถียรภาพ

– LINUX มีฟังก์ชั่นหลากหลาย เสถียรภาพดีกว่าแบบ MICROSOFT WINDOW ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมใช้ PC BASE เพราะ ราคาถูก
–  แบบ NON PC จะเป็นเครื่องที่ประกอบและเขียนโปรแกรมพิเศษ (EMBED) ลงในเครื่องทำให้มีเสถียรภาพสูงใช้งานง่าย นิยมใช้ในงานธนาคาร , อาคาร และโรงงาน

4) บริษัทที่ขายระบบโทรทัศน์วงจรปิด
ปัจจุบัน บริษัทที่ขายระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดมีจำนวนมาก โดยในปัจจุบันผู้ขายคอมพิวเตอร์ได้หันมาขายกล้องวงจรปิด เป็นจำนวนมากทำให้ราคาและกำไรของผู้ค้าน้อยลงมาก ได้มีการสั่งซื้อกล้องวงจรปิดจากประเทศจีนเข้ามาขายในราคาถูกมาก ทำให้ผู้ซื้อจะต้องระมัดระวังในการซื้อสินค้ามากกว่าปกติ จึงขอเสนอแนะวิธีการเลือกซื้อ ดังนี้
4.1) การพิจารณาการโฆษณาใน WEBSITE
อย่าพิจารณาเฉพาะข้อมูลใน Website พิจารณา ประวัติของเจ้าของหรือผู้บริหารว่ามีประสบการณ์ในสินค้า และความสำเร็จในอาชีพการงานหรือไม่เพราะคนที่เก่ง ย่อมเอาตัวรอดได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ จะต้องพิจารณา Company Profile ว่ามีให้พิจารณาหรือไม่ มีลูกค้า องค์กรที่น่าเชื่อถือหรือไม่ เช่น ธนาคาร , รัฐ วิสาหกิจ เพราะธนาคารและรัฐวิสาหกิจจะมีคณะกรรมการจัดซื้อ เลือกผู้เข้าประมูล ทำให้มั่นในว่าเป็นบริษัทที่มั่นคงไม่ทำธุรกิจตามกระแสนิยม
4.2) สินค้าที่จำหน่าย
ควรจะมีสินค้าหลากหลาย เป็นตัวแทนจำหน่ายยี่ห้อ Brandname และสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากบริษัทที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือ Import สินค้า เข้ามาเองจะมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง และการจำหน่ายสินค้าอื่นด้วยจะเป็นหลักประกันว่า ในอนาคตถ้าราคาหรือตลาดระบบกล้องวงจรปิดตกต่ำไป บริษัทที่เราซื้อสินค้ามาใช้ยังสามารถดำเนินธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อ ให้บริการหลังการขายที่ต่อเนื่อง
4.3) การไปชมการสาธิตสินค้าที่สำนักงานของผู้ขาย
มีผู้ซื้อหลายท่านเคยดู WEBSITE ของผู้ขายประทับใจใน รูปแบบ , การนำเสนอ , ราคาใน WEBSITE เป็นอย่างมากแต่เมื่อไปชมการสาธิตสินค้าที่สำนักงานของผู้ขายแล้วเปลี่ยนใจทันที เพราะสำนักงานไม่น่าเชื่อถือ

การไปดูสำนักงานของผู้ขายจึงเป็นความจำเป็นเป็นอย่างยิ่งเพราะเราต้องฝากผีฝากไข้ให้ผู้ขายดูแลระบบกล้องวงจรปิดเราประมาณ 5 ปี (โดยเฉลี่ย) ถ้าเลือกผู้ขายผิดอาจจะใช้ได้แค่ 1 – 2 ปีเท่านั้น
เมื่อเข้าไปชมการสาธิตในสำนักงานควรพิจารณา

– ขนาดของสำนักงาน มีพื้นที่ใช้สอย แบ่งใช้พื้นที่หลายบริษัทหรือไม่
– การจัดและอุปกรณ์สำนักงานที่ใช้ การจัดสำนักงานเป็นสัดส่วน และอุปกรณ์สำนักงานทำให้ทราบนโยบายของเข้าของหรือผู้บริหาร ว่ามีความตั้งใจในการทำธุรกิจหรือไม่
– มีการจัดห้องสาธิตหรือห้องประชุมเป็นสัดส่วน มีสินค้าให้ชมครบตามที่ต้องการหรือไม่
– บุคลากร พนักงานในสำนักงาน มีความขยันตั้งใจทำงาน มีการทำงานกระตือรือร้น ดูแล้วแสดงว่า ธุรกิจยังดีน่าเชื่อถือ
– ห้องช่าง ควรจะขอดูห้องช่าง เพื่อให้มั่นใจว่ามีช่างและเครื่องมือในการซ่อมระบบกล้องวงจรปิด
– ขอพบเจ้าของหรือผู้บริหาร ถ้ามีโอกาส ควรจะพบเจ้าของหรือผู้บริหารของบริษัทผู้ขาย จะได้สังเกตหน้าตา , บุคลิก , ทัศนคติ ในการดำเนินธุรกิจว่าน่าเชื่อถือหรือไม่

ก่อน ตัดสินใจนำข้อมูลทั้งหมดข้างต้นมาประมวลก่อนตัดสินใจซื้อ ถ้าซื้อรถยนต์ทุกท่านคงจะไม่พลาดเพราะมีข้อมูลพร้อม แต่กล้องวงจรปิดทุกท่านจะต้องศึกษาและพิจารณาเอง สุดท้ายต้องคำนึงว่า การติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกัน หรือ ติดตาม คนร้าย(คนทุจริต) ดังนั้น ภาพเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ จะต้องชัดเจน เพื่อติดตามคนร้ายมาลงโทษ  จึงควรเลือกอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดี และ บริษัทที่ขายที่มั่นคง และให้บริการหลังการขายที่ดี อย่าพิจารณาราคาอย่างเดียว เพราะ สินค้าดี,ราคาถูกที่สุด และมีบริการหลังการขายที่ดี ไม่มีให้เลือกในตลาด